คนท้องกินแซลมอน ได้ไหม? กินแล้วส่งผลดีต่อลูกในท้องหรือเปล่า

หากคุณแม่คนไหนที่ชอบกินแซลมอนเป็นประจำอยู่แล้ว และอยากจะรู้ว่าในระหว่างการตั้งครรภ์ เราสามารถกินอาหารเหล่านี้ได้ตามปกติไหม หรือถ้าเรากินเข้าไปแล้ว สิ่งเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อลูกในท้องหรือเปล่า เรามาดูไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะว่า คนท้องกินแซลมอน เป็นอย่างไร?

 

 

ปลาแซลมอนที่เราควรรู้จัก

ปลาแซลมอนเรียกได้ว่าเป็นปลาอีกหนึ่งประเภทที่คนส่วนใหญ่นิยมนำมารับประทานและนำมาเป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหาร อีกทั้งยังเป็นสิ่งที่ใครหลายคนชื่นชอบกันเป็นอย่างมาก สามารถกินได้ทั้งสุกและดิบ และด้วยความอร่อยของเนื้อแบบเน้น ๆ จึงทำให้ใครต่อใครก็ชอบปลาแซลมอนขึ้นมานั่นเอง

บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องกินน้ำขิงได้ไหม ขิงแบบไหนให้ดีต่อแม่ท้อง

 

 

คนท้องกินแซลมอนได้ไหม?

คุณแม่คนไหนที่กำลังสงสัยว่าเราสามารถกินแซลมอนได้ไหม จากการศึกษาพบว่าสามารถกินได้ค่ะ ซึ่งในปลาแซลมอนจะมีกรดไขมันชนิดหนึ่งที่ส่งผลดีต่อร่างกายทั้งของคุณแม่และลูกในท้อง อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างพัฒนาการระบบประสาทและพัฒนาการทางด้านสมองให้กับเด็ก ๆ อีกด้วย โดยคุณแม่อาจจะต้องกินในปริมาณที่เหมาะสม เพราะบางคนที่อยู่ในช่วงของการแพ้ท้อง หากกินเข้าไปในปริมาณที่มากจนเกินไปก็อาจจะยิ่งทำให้เรามีอาการแพ้ท้องขึ้นมาได้เช่นกัน

 

ประโยชน์ของปลาแซลมอนที่เราอาจจะยังไม่รู้

นอกเหนือจากความอร่อยที่เราจะได้รับไปแล้วนั้น เจ้าปลาแซลมอนยังมีคุณประโยชน์อีกมากมายที่ส่งผลดีต่อร่างกายของคุณแม่และเด็กด้วย ส่วนจะส่งผลดีทางด้านไหนบ้าง เรามาดูไปพร้อม ๆ กันเลยดีกว่าค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องกินตำลึง ได้หรือไม่ ช่วยเพิ่มน้ำนมได้จริงหรือ

1. ลดความเสี่ยงคลอดก่อนกำหนด

ในช่วงของการตั้งครรภ์ หากคุณแม่คนไหนที่มองข้ามสิ่งต่าง ๆ ทั้งในเรื่องของการใช้ชีวิต รวมถึงเรื่องอาหารการกิน สิ่งเหล่านี้ก็อาจจะทำให้เราเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนดได้ นอกจากนี้หากคุณแม่มีระดับกรดอะมิโนในร่างกายค่อนข้างต่ำ ก็อาจจะส่งผลทำให้เราคลอดก่อนกำหนดได้เช่นเดียวกัน และหากใครที่ไม่อยากให้ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นกับตัวเราเอง การกินแซลมอนก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะช่วยลดความเสี่ยงคลอดก่อนกำหนดให้กับคุณแม่ได้

2. ลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อชนิดต่าง ๆ

ในเนื้อปลาแซลมอนจะอุดมไปด้วยกรดอะมิโนที่จำเป็นและช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันได้ดีมาก ๆ โดยเฉพาะลูกในท้อง เพราะฉะนั้นหากคุณแม่คนไหนที่ชอบกินแซลมอนกันอยู่แล้ว สิ่งเหล่านี้ก็จะช่วยป้องกันการเป็นหวัดและช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อชนิดต่าง ๆ ให้กับลูกของเราได้

3. พัฒนาการทางด้านสมอง

นอกเหนือจากความอร่อยที่เราจะได้ลิ้มลองแล้ว ต้องบอกว่าในเนื้อปลาแซลมอนยังมีกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่ช่วยในเรื่องของการส่งเสริมพัฒนาการทางด้านความคิดและระบบประสาทได้ดีอีกด้วย เท่านั้นยังไม่พอกรดไขมันโอเมก้า 3 ตัวนี้ ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในเรื่องของความจำ และช่วยป้องกันความเสื่อมของระบบประสาท เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่ดีและมีประโยชน์มาก ๆ

4. ลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน

อีกหนึ่งสิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่ดีมาก ๆ สำหรับการกินแซลมอนคือ ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน ยิ่งคุณแม่คนไหนที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน หรือโรคอ้วน ลองกินแซลมอนดูนะคะสิ่งนี้อาจจะช่วยได้ เพราะเมื่อไหร่ที่เรากินปลาแซลมอนเข้าไปสิ่งนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญได้เป็นอย่างดี และเมื่อร่างกายเรามีระบบการเผาผลาญที่ดีขึ้น ระดับน้ำตาลในเลือดก็จะลดลงนั่นเองค่ะ

5. ไม่มีพยาธิ

อย่างที่รู้กันดีว่าเนื้อปลาแซลมอนส่วนใหญ่สามารถกินได้ทั้งแบบสุกและแบบดิบ และถึงแม้ว่าปลาชนิดนี้จะไม่มีพยาธิหรือหากเรากินแบบดิบ ๆ ก็ไม่ได้ส่งผลอันตรายอะไร แต่สำหรับคุณแม่ตั้งท้องเราอาจจะเลือกกินแบบสุก หรือผ่านความร้อนมาแล้วจะดีกว่า เพื่อเป็นการป้องกันและสร้างความปลอดภัยต่อลูกในท้องของเราค่ะ

6. ช่วยทำให้อารมณ์ดี

ฟังแล้วอาจจะดูแปลก ๆ แต่เชื่อหรือไม่ว่าการกินเนื้อปลาแซลมอนเข้าไป สิ่งนี้จะช่วยทำให้คุณแม่อารมณ์ดีขึ้นมาได้ เพราะปลาชนิดนี้มีส่วนที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและเสริมสร้างระบบประสาทและสมองในร่างกายของเราให้ทำงานได้ดีขึ้น เอาเป็นว่าหากคุณแม่มีเรื่องกังวลใจ หรือไม่สบายใจอะไร การรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์อย่างเนื้อปลาแซลมอน สิ่งนี้ก็สามารถทำให้คุณแม่อารมณ์ดีขึ้นมาได้เลยค่ะ

 

วิธีการเลือกซื้อปลาแซลมอน

1. ดูลักษณะของเนื้อปลา

สิ่งแรกที่เราดูเลยคือลักษณะของเนื้อปลาแซลมอนจะต้องมีสีส้มอมแดง มีลวดลายที่ชัดเจน ที่สำคัญเนื้อปลาที่เราเลือกจะต้องไม่มีสีส้มคล้ำ สำหรับใครที่อยากทานอาหารที่ดีและมีความสดใหม่ อย่าลืมสังเกตหรือดูลักษณะเนื้อปลาดี ๆ ก่อนทำการเลือกซื้อนะคะ

บทความที่เกี่ยวข้อง : เมนูแซลมอน หลากหลายสไตล์ อร่อย ทำง่าย ทานได้ไม่มีเบื่อ

2. ดูลักษณะการบรรจุภัณฑ์

การที่เราจะได้เนื้อปลาแซลมอนที่ดีมีคุณภาพ แน่นอนว่าเรื่องของการบรรจุภัณฑ์ก็เป็นอะไรที่สำคัญด้วยเช่นกัน ซึ่งเนื้อปลาแซลมอนที่เราเลือกนั้นจะต้องผ่านการแช่แข็งที่อุณหภูมิ -20 องศาเซลเซียสมาแล้วไม่ต่ำกว่า 7 วัน หรืออาจจะอยู่ในอุณหภูมิ -35 องศาเซลเซียสอย่างน้อย 12 ชั่วโมง เอาเป็นว่าก่อนทำการเลือกซื้อเราควรดูอุณหภูมิด้วยนะคะ เพื่อที่เนื้อปลาแซลมอนที่เราซื้อไปจะได้เก็บไว้นานมากยิ่งขึ้น

3. หลีกเลี่ยงการซื้อเนื้อปลาเละ

ทุกครั้งของการซื้อปลานอกจากลักษณะภายนอกที่เราสังเกตแล้ว อาจจะต้องดูด้วยว่าเนื้อปลาที่เราจะซื้อไปนั้นมีลักษณะเป็นอย่างไร ไม่ควรเลือกซื้อเนื้อปลาที่เละและไม่แน่น เพราะสิ่งนี้กำลังบ่งบอกว่าปลาตัวนี้ไม่มีความสดใหม่ หรือถูกเก็บไว้นานหลายวัน ซึ่งหากนำมาประกอบอาหารสิ่งนี้ก็อาจจะส่งผลไม่ดีต่อเราและลูกในท้องได้

4. มีการแสดงวันผลิตและวันหมดอายุ

สิ่งสำคัญอีกหนึ่งอย่างที่เราต้องดูนั่นคือเนื้อปลาที่เราเลือกจะต้องเป็นบรรจุภัณฑ์ที่แสดงวันผลิตและวันหมดอายุได้อย่างชัดเจน เพราะเมื่อไหร่ที่เราไม่ได้ทำการสังเกตหรือดูวันผลิตและวันหมดอายุ สิ่งเหล่านี้ก็อาจจะทำให้เราเผลอไปกินอาหารที่หมดอายุขึ้นมาได้เหมือนกัน

5. เนื้อปลาแซลมอนดิบ

เนื้อปลาแซลมอนดิบอาจจะไม่ได้ส่งผลดีต่อคุณแม่ที่กำลังตั้งท้องสักเท่าไหร่ แต่สำหรับใครที่อยากจะทานแซลมอนแบบดิบ เราควรเลือกเนื้อปลาแซลมอนที่บรรจุถุงสุญญากาศ เพราะถ้าเราเลือกซื้อเนื้อปลาที่ไม่ได้บรรจุถุงสุญญากาศ เนื้อปลาแซลมอนที่เราซื้อมาอาจจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้เลย เพราะฉะนั้นหากใครที่อยากจะให้อาหารมื้อนี้ของเราเป็นมื้อที่อร่อยและดีต่อสุขภาพ เราควรเลือกซื้อเนื้อปลาที่ดี สะอาดและถูกหลักอนามัยนะคะ

 

ข้อมูลที่เราได้นำมาฝากคุณแม่ในวันนี้ คงทำให้คุณแม่หลายคนคลายความกังวลขึ้นมาบ้างแล้วใช่ไหมคะ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ทุกครั้งของการทานอาหารเราควรเลือกทานอาหารที่ดี และมีประโยชน์ต่อเราและลูกในท้องดีที่สุดค่ะ เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน และช่วยส่งเสริมในระบบต่าง ๆ ในร่างกายของเราให้ทำงานได้ดีขึ้น อีกทั้งยังส่งผลดีต่อลูกของเราตามไปด้วยค่ะ


บทความที่น่าสนใจ :

คนท้องกินเยอะขึ้นเพราะอะไร กินแบบไหนถึงไม่อ้วน ?

คนท้องกินโยเกิร์ตได้ไหม ช่วยบำรุงครรภ์ได้จริงหรือไม่?

ผลไม้คนท้อง กินแล้วดีอย่างไร แม่ท้องกินผลไม้อะไรได้บ้าง?

ที่มา : 1 , 2 , 3